แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 – 0 วัตฟอร์ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดสร้างสรรค์เกมที่ยอดเยี่ยมโดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังในนัดที่พบกับวัตฟอร์ด เมื่อคืนที่ผ่านมา เอาชนะไปได้ 4 – 0
ประตูแรกของเกมในคืนนี้แมนฯ ยูไนเต็ดได้จุดโทษจากจังหวะที่เจย์ เดอเมอริต ดึงโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ล้มในเขตโทษ และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงจุดโทษให้ทีมในนาทีที่ 20
วัตฟอร์ด ก็เกือบตีเสมอได้จากลูกยิงของคริส พาวเวลล์ แต่ก็ชนเสา หลังจากนั้นครึ่งหลังแมนฯ ยูไนเต็ดก็ได้ประตูอีก 3 ประตูจากลูกโหม่งสกัดบอลพลาดของลอยด์ ดอยลี่ย์ ตามด้วยลูกยิงของเฮนริก ลาร์สสัน ซึ่งถูกเปลี่ยนตัวลงไปแทน และปิดท้ายด้วยลูกยิงของเวย์น รูนี่ย์ ในเกมนี้เหล่านักเตะของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็สามารถคว้าชัยชนะให้กับทีมได้อย่างสบายๆ เก็บชัยชนะในบ้านได้เป็นนัดที่ 9 และยังคงมีแต้มนำเชลซี อยู่ 6 แต้ม
วัตฟอร์ต มาเยือนโรงละครแห่งความฝันด้วยคะแนนที่ตามหลังทีมปีศาจแดงอยู่ 42 คะแนน และไม่สามารถเก็บชัยชนะในการเล่นนอกบ้านเลยในฤดูกาลนี้ และที่สำคัญในฟุตบอลลีก พวกเขาไม่เคยมาเอาชนะได้ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด เลย
แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มเกมอย่างช้าๆ และไม่หวือหวานัก จนกระทั่งนาทีที่ 12 พวกเขาก็มีโอกาสก่อนเมื่อริชาร์ดสัน เปิดบอลให้รูนี่ย์ โหม่งแต่บอลก็หลุดออกนอกกรอบไป
หลังจากนั้นในนาทีที่ 20 แมนฯ ยูไนเต็ดก็เหมือนได้ตัวช่วย เมื่อเดอเมอริต ดึงเสื้อโซลชาร์ ล้มลงในกรอบเขตโทษ และไมค์ ดีน ก็ไม่ลังเลที่จะเป่าให้จุดโทษทีมปีศาจแดง โดยโรนัลโด้รับหน้าที่สังหารจุดโทษในครั้งนี้ และเขาก็ยิงไม่พลาด แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำ 1 – 0
ต่อมานาทีที่ 35 วัตฟอร์ดเกือบตีเสมอได้จากจังหวะที่พาวเวลล์ ได้เปิดบอลผ่านมือคุสซ์แซค ไปได้แต่บอลก็ชนเสา
หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ดก็มีโอกาสได้ประตูถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกจากลูกเตะมุมของไมเคิล คาร์ริค ไปยังเนมานย่า วิดิช แต่เขาก็โหม่งข้ามคานออกไป อีกครั้งมาจากลูกยิงของริชาร์ดสสัน แต่บอลก็ข้ามคานออกไปอย่างเสียดาย หมดครึ่งแรกแมนฯ ยูไนเต็ดนำอยู่ 1 – 0
เริ่มครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ดเริ่มเปิดเกมได้มากกว่าในครึ่งแรก นาทีที่ 53 ไฮน์เซ่ ได้หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษแต่ก็ยิงไปติดกองหลัง บอลกระดอนมาเข้าทางรูนี่ย์ ได้ยิงซ้ำแต่บอลก็หลุดออกนอกกรอบไปหวุดหวิด
นาทีที่ 60 ริชาร์ดสัน ไปบุกขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะเกิดบอลไปหน้าประตู แต่ลอยด์ ดอยลี่ย์ พุ่งโหม่งสกัดบอลผ่านมือลี เข้าประตูตัวเองไป แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 2 – 0
ต่อมาในนาทีที่ 66 เฟอร์กี้ก็เปลี่ยนตัวผู้เล่นโดยส่งลาร์สสัน ลงเล่นและเปลี่ยนโซลชาร์ ออก
หลังจากนั้นลี ก็ต้องพยายามป้องกันการทำเข้าประตูตัวเองอีกครั้งของอาเดรียน มารีอัปปา จากการสกัดลูกเปิดของรูนี่ย์แบบผิดเหลี่ยม
แต่แล้วประตูที่ 3 ของแมนฯ ยูไนเต็ดก็เกิดขึ้น เมื่อรูนี่ย์เปิดบอลให้ลาร์สสัน ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามได้เพียง 4 นาที แปบอลเข้าประตูไปสบายๆ แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำ 3 – 0
และหลังจากนั้นอีกเพียง 1 นาทีแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้อีก 1 ประตูและเป็นประตูที่สวยที่สุดในนัดนี้ โดยเป็นการเปิดบอลที่ยอดเยี่ยมของโรนัลโด้ ให้รูนี่ย์ และเขาก็กระดกบอลข้ามตัวลี เข้าประตูไป เป็นประตูที่ 4 ในการลงเล่น 3 นัดหลังสุดของพวกเขา แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำ 4 – 0
หลังจากนั้นแมนฯ ยูไนเต็ดก็เกือบจะได้ประตูที่ 5 จากการยิงของโรนัลโด้แต่บอลก็หลุดออกนอกกรอบไป จบเกมแมนฯ ยูไนเต็ดเก็บชัยชนะไปอย่างสวยหรู 4 – 0 ยังคงรักษาคะแนนนำเชลซีอยู่ที่ 6 คะแนนและเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก ต่อไป (บรรยายเกมโดย โอปอล)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
แกรี่ เนวิลล์ 2
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
เนมานย่า วิดิช 15 ( น. 45)
กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4 ( น. 87)
จอห์น โอเชีย 22
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 ( จุดโทษ น. 20)
ไมเคิล คาร์ริค 16
คีแรน ริชาร์ดสัน 23
เวย์น รูนี่ย์ 8 ( น. 71)
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 20
สำรอง
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 1
เวส บราวน์ 6 น. 75 ไมเคิล คาร์ริค 16
มิเกล ซิลแวสตร์ 27 น. 75 เนมานย่า วิดิช 15
พาร์ค จีซุง 13
เฮนริก ลาร์สสัน 17 ( น. 70) น. 66 โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 20
วัตฟอร์ด
ริชาร์ด ลี 16
อาเดรียน มารีอัปปา 23
ลอยด์ ดอยลี่ย์ 12 ( ทำเข้าประตูตัวเอง น. 61)
เจย์ เดอเมอริต 6 ( น. 42)
จอร์แดน สจวร์ต 3
คริส พาวเวลล์ 11
อัลฮัสสัน บังกูร่า 20
แดเมียน ฟรานซิส 7
ทอมมี่ สมิธ 29
ฮาเมอร์ บูอัซซ่า 18
ดาริอุส เฮนเดอร์สัน 10 ( น. 44)

สำรอง
อเล็ค แชมเบอร์เลน 1
แอนโธนี่ย์ แม็คนามี 19
ลี วิลเลียมสัน 38 น. 72 ทอมมี่ สมิธ 29
สตีฟ แก็บบ้า 15 น. 75 ดาริอุส เฮนเดอร์สัน 10
วิลล์ ฮอสกิ้นส์ 37 น. 61 คริส พาวเวลล์ 11
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 4, ยิงตรงกรอบ 6, ยิงหลุดกรอบ 12, โดนบล็อค 7, เตะมุม 7, ฟาวล์ 11, ล้ำหน้า 1, ใบเหลือง 2, การครองบอล 67.6%
วัตฟอร์ด ประตู 0, ยิงตรงกรอบ 1, ยิงหลุดกรอบ 1, โดนบล็อค 2, เตะมุม 2, ฟาวล์ 11, ใบเหลือง 2, การครองบอล 32.4%
คะแนนความสามารถ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โทมัสซ์ คุสซ์แซค 6, แกรี่ เนวิลล์ 7, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7, เนมานย่า วิดิช 7, กาเบรียล ไฮน์เซ่ 7, จอห์น โอเชีย 6, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 9, ไมเคิล คาร์ริค 8, คีแรน ริชาร์ดสัน 8, เวย์น รูนี่ย์ 9, โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 6, เวส บราวน์ (สำรอง) 6, มิเกล ซิลแวสตร์ (สำรอง) 6, เฮนริก ลาร์สสัน (สำรอง) 7
วัตฟอร์ด ริชาร์ด ลี 6, อาเดรียน มารีอัปปา 5, ลอยด์ ดอยลี่ย์ 5, เจย์ เดอเมอริต 5, จอร์แดน สจวร์ต 5, คริส พาวเวลล์ 6, อัลฮัสสัน บังกูร่า 5, แดเมียน ฟรานซิส 5, ทอมมี่ สมิธ 6, ฮาเมอร์ บูอัซซ่า 5, ดาริอุส เฮนเดอร์สัน 6, ลี วิลเลียมสัน (สำรอง) 6, สตีฟ แก็บบ้า (สำรอง) 6, วิลล์ ฮอสกิ้นส์ (สำรอง) 6
Por

Related Posts